ปัญหาฝุ่น PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีขนาดเฉลี่ยไม่เกิน 2.5 ไมครอน (microns) หรือ 1/20 ของขนาดของเส้นผมมน (1 มิลลิเมตร) ซึ่งมีขนาดเล็กจนสามารถเข้าสู่ทางเดินหายใจของมนุษย์ได้โดยตรง ซึ่งสามารถเกิดจากการเผาไหม้พลังงานทางอากาศ เช่น การเผาไหม้ของป่า การเผาไร่นา การเผาขยะ การเผาถ่านหิน การขนส่งทางบกและทางอากาศ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางอากาศ และกิจกรรมอื่นๆที่เกิดมลพิษในอากาศ
การใช้ชีวิตในสภาพอากาศที่ร้อนและฝุ่นมากสามารถทำได้ โดยการใช้เครื่องปรับอากาศซึ่งสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ และควรเลือกอยู่ในที่ที่มีคุณภาพอากาศดีๆ โดยอาจตรวจสอบด้วยแอปพลิเคชั่นสถานีโทรทัศน์หรือเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลคุณภาพอากาศในพื้นที่
ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดจากการเผาไหม้ของป่า การเผาไร่นา การเผาขยะ และการใช้รถยนต์ โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงฤดูแล้งของประเทศไทย ซึ่งอากาศแห้งและมีลมแรงทำให้ฝุ่น PM2.5 กระจายได้ไกล และส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคทางเดินหายใจและผู้สูงอายุ ซึ่งอาจทำให้เกิดความอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการในการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่จังหวัดเชียงใหม่โดยให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกัน เช่น การเพิ่มจำนวนสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ การส่งเสริมการใช้ยานพาหนะสาธารณะแทนการใช้รถส่วนบุคคล การสนับสนุนโครงการปลูกป่า และการกำกับดูแลการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานทดแทน อย่างไรก็ตามปัญหาฝุ่น PM2.5 ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่และต้องมีการดำเนินการแก้ไขต่อไปในระยะยาวด้วย
ต้นไม้ที่มีคุณสมบัติช่วยลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้แก่ ต้นไม้ที่มีความสามารถดังนี้
- ต้นไม้พุ่มเขียวเข้ม เช่น ต้นมะม่วงหิมพานต์ ต้นหมากแก้ว และต้นกระท้อน ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีความหนาที่ใบและก้านใบมาก ทำให้สามารถดักจับฝุ่น PM2.5 และสารมลพิษอื่นๆ ได้ดี
- ต้นไม้ที่มีก้านใบยาว เช่น ต้นไผ่ ต้นป่าลูกผักบุ้ง และต้นโกสน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดฝุ่น PM2.5 โดยการดักจับฝุ่น PM2.5 บนก้านใบของต้นไม้
- ต้นไม้ที่มีก้านใบขนาดเล็ก เช่น ต้นกล้วยไม้ ต้นเต่าเลี้ยง และต้นลำไย ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดฝุ่น PM2.5 โดยการดักจับฝุ่น PM2.5 บนก้านใบและใบไม้
นอกจากนี้ยังมีต้นไม้อื่นๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยลดฝุ่น PM2.5 ได้ เช่น ต้นมะกอก ต้นยูคาลิปตัส และต้นอ้อย ซึ่งสามารถช่วยลดฝุ่น PM2.5 และสารมลพิษอื่นๆ ในอากาศได้ดีเช่นกัน ดังนั้นการปลูกต้นไม้เหล่านี้สามารถช่วยลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก
ชนิดของหน้ากากอนามัยที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5
- หน้ากากอนามัย N95: เป็นหน้ากากที่ผลิตขึ้นมาเพื่อรับมือกับฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน โดยมีความสามารถในการกรองอากาศที่สูงมากถึง 95%
- หน้ากากอนามัย N99: เป็นหน้ากากที่มีความสามารถในการกรองฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มากกว่าหน้ากาก N95 โดยมีความสามารถในการกรองอากาศถึง 99%
- หน้ากากอนามัย P100: เป็นหน้ากากที่มีความสามารถในการกรองฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมีความสามารถในการกรองอากาศถึง 99.97%
- หน้ากากอนามัยพลาสติก: หน้ากากอนามัยประเภทนี้มีการออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับป้องกันฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน ซึ่งไม่ได้รวมถึง PM 2.5 แต่ก็ยังช่วยลดการรับฝุ่นละอองที่ไม่ดีเข้าสู่สุขภาพของคุณได้
- หน้ากากอนามัยผ้า: เป็นหน้ากากที่ผลิตจากผ้าที่มีการออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับป้องกันฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน
ได้รับการสนับสนุนจาก สล็อต ufabet เว็บตรง