ป้ายกำกับ: ข่าวสังคมทั่วไป

วง K-pop ที่ถูกค่ายเพลงของตัวเองทำลาย

วงไอดอล K-pop ที่ถูกค่ายเพลงของตัวเองทำลายลง

วง K-pop ที่ถูกค่ายเพลงของตัวเองทำลาย

วงการเพลง K-pop ในประเทศเกาหลีใต้นั้นถือเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ดำเนินมาได้อย่างยาวนานและยังคงอยู่ในกระแสตลอดเวลาทั้งในตัวประเทศเกาหลีใต้เองและยังส่งออกไปถึงระดับสากลด้วย จึงเป็นเรื่องไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นไอดอลกรุ๊ปเกิดขึ้นมากมายเยอะแยะเต็มไปหมด

แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ มีวงที่ดังมากไปได้ดีในวงการเพลง ย่อมมีวงที่ไปได้ไม่ดีนัก ซึ่งบางครั้งก็เกิดจากตัวเพลง ไอดอล จังหวะของดวง

วง K-pop ที่ถูกค่ายเพลงของตัวเองทำลาย

และรวมไปถึงการบริหารของตัวค่ายเพลงเองที่ไม่สามารถพาวงไอดอลในสังกัดให้ไปเข้าไปอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันที่สูงได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังบริหารไม่เป็นทำให้ทิศทางของวงไอดอลของตัวเองไปในทางที่ไม่ดีอีก

บางครั้งก็น่าเสียดายแทนเหล่าไอดอลที่มีศักยภาพสูงแต่ก็ต้องมาจมปลักอยู่กับค่ายเพลงของตัวเองที่ไม่สามารถดึงความสามารถเหล่านั้นออกมาใช้ได้ ซึ่งมีหลายวงเลยที่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจนกลายเป็นกรณีศึกษา เช่น 

Miss A อดีตเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังแห่งค่าย JYP Entertainment ค่าย Top3 ในการผลิตไอดอลของประเทศเกาหลีใต้ 

ในวงประกอบไปด้วยสมาชิก 4 สาว คือ เฟ่ย เจีย มิน และซูจี ที่มีเพลงที่มีชื่อเสียงหลายเพลง ได้แก่ Bad Girl Good Girl, Goodbye Baby, Hush, Only You และฯลฯ ใครเลยจะไปเชื่อว่าค่ายระดับ Top3 ก็เคยเกิดเหตุการณ์การบริหารที่ผิดพลาดขึ้น เนื่องจากตัวค่ายได้ส่งซูจีไปแคสงานแสดงจนได้รับบทในหนังเรื่อง Architecture 101 จนได้รับฉายา รักแรกแห่งชาติ

ด้วยภาพลักษณ์ที่ใสซื่อบริสุทธิ์จึงทำให้ซูจีแจ้งเกิดและดังเป็นพลุแตกขึ้นมาทันที ความโด่งดังของซูจีในเวลานั้นทำให้ค่ายเลือกที่จะโฟกัสงานต่างๆไปที่เธอเพียงคนเดียว คอยป้อนงานแสดง งานพรีเซ็นเตอร์โฆษณาต่างๆ จนเธอเดินสายทำกิจกรรมเดี่ยวๆคนเดียว

ไม่ได้คัมแบคออกอัลบั้มเพลงกับวงของเธอเลย ยิ่งไปกว่านั้นความมีชื่อเสียงของเธอนำเพื่อนในวงของเธอมาหลายขั้น จนทำให้คนจดจำชื่อวงจาก Miss A กลายเป็น ซูจีและผองเพื่อน ไปแทน แฟนๆหลายคนคิดว่าค่าย JYP

ไม่ทำการคัมแบคออกอัลบั้มเพลงให้ Miss A เพราะตัวค่ายเองก็สามารถทำเงินจากแค่กิจกรรมงานของซูจีเพียงคนเดียวได้ จนสุดท้ายสมาชิกในวงคนอื่นก็ทยอยถอนตัวออกจากวงไปทีละคน จนวงถูกยุบไป

B.A.P บอยแบรนด์ที่เคยโด่งดังอย่างมากจากค่าย TS Entertainment ในอดีตมีสมาชิกถึง 6 คน คือ ยงกุก ฮิมชาน แดฮยอน ยองแจ เจโล่ และจงอัพ

แต่ปัจจุบันมีสมาชิกเหลือเพียง 4 คนเท่านั้น เนื่องจากยงกุกและเจโล่ได้ถอนตัวออกจากวงไปหลังจากหมดสัญญากับทางค่าย วง B.A.P เองก็เคยมีปัญหาจนถึงขั้นฟ้องร้องค่ายของตัวเองเนื่องจากการบริหารที่ไม่ดีในปี 2014

ด้วยเหตุผลที่ว่าทางค่ายใช้งานหนักเกินไป และตัววงไม่ได้รับส่วนแบ่งอย่างเป็นธรรมจนปัญหายืดเยื้องกันมาเป็นเวลาถึงเกือบ 1 ปีเต็ม จนสุดท้ายก็ตกลงกลับมาทำงานร่วมกัน แต่ในระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ตกลงกันไม่ได้ ตัววงก็ต้องหยุดกิจกรรมไปจนกระแสและความโด่งดัง

เริ่มลดลงไปตามกาลเวลา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ B.A.P เสียโอกาสไปหลายๆอย่าง เพียงเพราะค่ายเพลงไม่สามารถบริหารจัดการได้ทันเวลา

เรื่องราวของ 2 วงนี้เป็นกรณีศึกษาที่เห็นได้เลยว่าการบริหารที่ไม่ดีก็นำไปสู่หนทางที่อาจจะทำลายศิลปินไอดอลในค่ายของตัวเองได้ จนค่ายต้องเสียคนดีๆมีความสามารถไปอย่างน่าเสียดาย วง K-pop ที่ถูกค่ายเพลงของตัวเองทำลาย

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  เล่นบาคาร่าออนไลน์ฟรี  

ข่าวทุจริตที่ดิน

ข่าวทุจริตที่ดิน

ข่าวทุจริตที่ดิน ย้อนกลับไปเมื่อราวประมาณในปี2536ในท้องที่ตำบลเขาไม้แก้วอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้เป็นความผิดแรกที่ได้มีหลักฐานอย่างชัดเจนที่จำนำหลักฐานของ  “กำนันเป๊าะ” นำไปสู่เนื้อมือของกฏหมายในข้อกล่าวหาได้มีการร่วมกันทุจริตเมื่อปี2536

เมื่อเมืองพัทยามีการเปิดประมูลการจัดหาที่ดินเพื่อที่จะใช้ในการฝังขยะแต่หลังจากที่มีการประมูลเสร็จแล้วด้านเมืองพัดทยาได้มีการจัดหาซื้อที่ดินจำนวน140ไร่ที่ ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรีด้วยงบประมาณ93.52ล้านบาทแต่3เดือน

ถักมาการก่อสร้างที่ฝังกบขยะเมืองพัทยากลับต้องหยุดชงัด เมื่อได้มีการตรวจสอบแล้วได้พบข้อพิรุธอยู่หลายอย่าง ซุกซ่อนส่อแววทุจริตภายใต้การซื้อขายที่ดินครั้งนี้มันได้เป็นกลโกงสมคบคิดทุจริตการซื้อที่ดินหลวงระดับข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจที่โยงใยไปถึงกำนันคนดังเรื่องที่ตามมาก็คือ“กำนันเป๊าะ”

เข้าไปเกี่ยวข้องกกับการทุจริตนี้ได้อย่างไรใน เมื่ออำนาจความรับผิดชอบของเขาอยู่แค่ในตำบลแสนสุขไม่ใช่เมืองพัทยาเป็นไปได้หรือไม่ว่าเพราะเวลานั้นเขาคือเจ้าพ่อค้าที่ดินรายใหญ่แห่งภาคตะวันออกธนูดอกแรกจึงพุ่งตรงไปที่เขาก่อนใครอื่นแต่หลักฐานอะไรที่ซักนำข้อพิรุธจทำให้ตำรวจสาวไปถึงตัว“กำนันเป๊าะ” ได้ทั้งๆที่ในตอนนั้นคนเกือบทั้งเมืองชลปักใจเชื่อว่าที่ดินดังกล่าวมีการซื้อขายอย่างถูกต้องคำตอบนี้คงมีตำรวจผู้ทำคดีนายนี้เท่านั้น

ที่ไขเงื่อนงํานี้ได้จากเบาะแสเล็กที่ได้รับแจ้งจากผู้ที่หวังดีนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในกรรมสิทธิ์ที่ดินแปรงปริศนานี่แล้วความจริงอย่างแรกก็เผยถึงเร่อุบายกลโกงหลังจากที่ได้มีการปลอมแปรงเอกสารที่ดินป่าสงวนแห่งชาติจนกระทั้งออกเป็นเอกสาร น.ส.3ก.ได้โดยบริษัทKITIคอร์เปอเรชั่นจำกัดเป็นผู้ครอบครองมีจำนวนทั้งหมด1,810ไร่ต่อมาวันที่20ตุลาคม ปี2535KITIคอร์เปอเรชั่นจำกัดได้ตัดขายที่ดินจำนวนแปรงหนค่งจำนวน150ไร่ให้กับนายพีระ ศิลรัตน์ในราคาไร่ละ50,000บาท

รวมเป็นเงิน7.5ล้านบาทต่อมา นายพีระ ศิลรัตน์ได้มีการแบ่งที่ดินจาก150ไร่ได้แบ่งเป็นสองแปรงคือ 140ไร่ และ 10ไร่ ก่อนที่จะนำที่ดิน140ไร่นี้ไปขายให้เมืองพัทยาเมื่อวันที่18มิถุนายน ปี2536ในราคาสูงขึ้น93ล้านบาทเศษหรือตกไร่ละ660,000บาทเพียง8เดือนที่ดินมีราคาพุ่งสูงขึ้นถึง13เท่าตัวและเป็นการซื้อถูกแต่ขายแพงอย่างมีนะยะสำคัญนี่เป็นจุดผู้ที่บริหารเมืองพัทยาและสมาชิกแห่งเมืองพัทยาน่าจะมองเห็นกว่าที่คนนอกอย่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะมองเห็นด้วยซ้ำ

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  บาคาร่าออนไลน์

คนบ้าใช้มีดจี้คน

คนบ้าใช้มีดจี้คน แต่ตำรวจจับไม่ได้เพราะคนบ้ามีกฏหมายคุ้มครอง 

คนบ้าใช้มีดจี้คน

      จากเหตุการณ์ที่นางสาว จิตรลดา ได้ก่อเหตุใช้มีดแทงเด็ก 4 ขวบเสียชีวิตซึ่งคนร้ายมมีอาการทางประสาททำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเอาผิด นำตัวคนร้ายมาลงโทษได้ ซึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการโพสต์เฟสบุ๊กเล่าเรื่องราวของตนเอง

โดยบอกว่าตัวเองก็เพิ่งเจอมาเหมือนกับที่เด็กหญิงเด็กขวบนางสาวจิตรลดาใช้มีดแทงเธอเล่าว่าในตอนเช้าวันหนึ่งเธอนั่งอยู่หน้าร้านขายโทรศัพท์มือถือของเธอซึ่งเธอนั่งอยู่ด้านนอกกำลังนั่งกินกาแฟโดยนั่งหันหลังให้กับถนนใหญ่  มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาด้านหลังของเธอแล้วถือมีดตรงเข้ามาหาเธอพร้อมกับถามเธอว่าเมื่อกี้พูดอะไร

ซึ่งคำพูดนี้เขาพูดหลายครั้งมากตัวเองตกใจกลัวจึงรีบตอบกลับออกไปว่าเธอไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้นชายเสื้อแดงคนนั้นก็เดินกลับไปเธอรู้สึกกลัวมากเธอจึงได้รีบวิ่งเข้าไปในร้านขายโทรศัพท์มือถือของเธอพร้อมกับล็อคประตูซึ่งผ่านไปไม่นานไม่เกิน 3 นาที

และแสดงคนนั้นก็ย้อนกลับมาอีกครั้งหนึ่งแต่พอไม่เจอใครเขาก็เลยเดินออกไปซึ่งหญิงสาวพี่เป็นผู้เสียหายได้เดินทางเข้าไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งนำคลิปวีดีโอที่ถ่ายจากกล้องวงจรปิดของที่ร้านเอาไปให้ตำรวจด้วย

แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าชายคนดังกล่าวมีอาการทางประสาทซึ่งไม่สามารถที่จะทำการจับกุมตัวมาลงโทษได้เนื่องจากว่าจะมีกฎหมายที่เอาไว้คุ้มครองสำหรับคนมีอาการทางประสาทโดยเฉพาะทำให้เธอรู้สึกว่าการที่ปล่อยให้มีกฎหมายออกมาคุ้มครองคนที่มีอาการทางประสาทมันเป็นการเสี่ยงที่ให้ประชาชนทั่วไป

เกิดความอันตรายแล้วคนร้ายก็จะไม่ได้รับการลงโทษแต่อย่างใดเรื่องการปล่อยให้คนที่มีอาการทางประสาทเดินออกมาลอยนวลปะปนอยู่กับคนดีๆทั่วไปมันเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากเพราะคนทั่วไปจะไม่รู้ตัวเลยว่าคนไหนมีอาการทางประสาทและมีแนวโน้มที่จะฆ่าคนอื่นได้ ซึ่งใน Facebook ของเธอจะได้มีการระบุเอาไว้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะมีการควบคุมตัวชายที่มีอาการทางประสาทคนนี้ไปหรือคนที่มีอาการทางประสาททุกคนไป

ไม่ควรปล่อยให้มาเพ่นพ่านปะปนอยู่กับคนดีๆทั่วไปแล้วค่อยนำผู้ป่วยอาการทางประสาทนี้ไปทำการรักษาเพื่อที่จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดอย่างคดีของนางสาวจิตรลดาที่เข้าไปทำร้ายเด็กได้ถึง 2 ครั้งอย่างที่เพิ่งมีข่าวมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้

แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้เพราะว่าใส่เสื้อแดงยังไม่ได้มีการแทงสาวเลยยังงั้นในเมื่อยังไม่มีคดีความกันก็ไม่สามารถจับกุมตัวได้ทำได้เพียงแค่ลงบันทึกประจำวันเท่านั้น

นายกเทศบาลเมืองแสนสุข โกรธจัด

นายกเทศบาลเมืองแสนสุข โกรธจัด เจอคนพาลมาพังเก้าอี้และโต๊ะริมชายหาดเสียหาย

เจอคนพาลมาพังเก้าอี้และโต๊ะริมชายหาด

                เจอคนพาลมาพังเก้าอี้และโต๊ะริมชายหาด  สำหรับชายหาดบางแสนเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของไทยในแต่ละวันมักจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งชายหาดบางแสนอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมานัก ดังนั้นก็จะมีคนที่ไปเที่ยวกับไปเช้าเย็นกลับเป็นจำนวนมากที่เดินทางไปพักผ่อน ไปนั่งกินอาหารริมทะเล

มองพระอาทิตย์ตกดินแล้วจึงค่อยขับรถกลับบ้านก็ได้  ในตอนนี้ได้มีการแชร์ภาพโต๊ะ เก้าอี้ที่สภาพพังเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยภาพนี้มีการแชร์ต้นเรื่องมากจากเฟสบุ๊กของนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุขเอง ซึ่งโต๊ะและเก้าอี้ที่ถูกทุบทำลายจนพังเสียหายนั้นเป็นทรัพย์สินของทางราชการที่นำมาวางไว้ให้กับพี่น้องประชาชนทุกคนได้มีที่นักพักผ่อน

และที่นั่งทานอาหารกัน ซึ่งโต๊ะกับเก้าอี้หินนี้ท่านนายกเทศมนตรี นาย ณรงค์ชัย ได้บอกว่าเพิ่งจะเอามาตั้งไว้ โดยมีความตั้งใจที่จะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดตรงจุดนี้ด้วยแต่ยังไม่ได้ติดตั้งกล้องโต๊ะกับเก้าอี้ก็มาเสียหายเสียก่อน ซึ่งนายกเทศมนตรี นาย ณรงค์ชัย ยังได้กล่าวอีกว่า รู้สึกเสียใจที่มีคนมาทำแบบนี้ เพราะทรัพย์สินที่เตรียมมาไว้ให้นี้ก็เพื่อพี่น้องทุกคน แต่พอเมาแล้วก็มาพังข้าวของที่มอบให้ใช้ร่วมกันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ซ้ำท่านยังได้ด่าถึงคนที่ทำลายข้าวของนี้อีกมากมาย

        สมบัติทุกชิ้นที่ทางราชการนำมาให้ประชาชนใช้ร่วมกันเป็นเงินที่เก็บมาจากภาษีของประชาชน ดังนั้นจึงไม่สมควรที่จะมาทุบทำลายข้าวของเหล่านี้ และต่อให้เมามายอย่างไรก็ทำลายข้าวของพังเสียหายไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินส่วนรวมหรือจะเป็นทรัพย์สินส่วนตัวก็ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะทำ เพราะคนที่มีนิสัยชอบทำลายข้าวของถือว่าเป็นคนที่มีปัญหาความบกพร่องทางจิตอย่างหนึ่งไม่ว่าคุณจะไม่พอใจใครก็แล้วแต่ แต่คุณไม่ควรที่จะมาลงกับทรัพย์สิน สิ่งของทั้งหลายเหล่านี้

       โต๊ะและเก้าอี้หินที่ทาง สำนักงานเทศบาลเมืองบางแสนนำมาวางไว้นี้ถือว่าเป็นทรัพย์สมบัติของประชาชนทุกคนจึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา คอยสอดส่องคนที่จะมาทำลายทรัพย์สินของส่วนรวมนี้ และหากใครที่เห็นเหตุการณ์ก็ควรจะไปแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี

หากบางแสนมีจุดนักพักให้นักท่องเที่ยวได้นั่งทานอาหารริมทะเล ได้นั่งชมวิวทะเลแบบสบายๆ ก็จะมีนักท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมากที่อยากจะเดินทางมาพักผ่อนแต่ถ้าหากมาแล้วมาเจอแต่ซากปรักหักพังอีกหน่อยบางแสนคงร้างนักท่องเที่ยวแน่นอน

สนับสนุนเรื่องราวโดย  gclub

ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอู่ฮั่นเสียชีวิต

พบ ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอู่ฮั่นเสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา

ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอู่ฮั่นเสียชีวิต

ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอู่ฮั่นเสียชีวิต ที่ประเทศจีนได้มีการแต่งตั้งโรงพยาบาลอู่ฮั่น เป็นศูนย์กลางของการระบาดของไวรัสโคโรนา หรือที่เราเรียกกันว่าโรคโควิด -19 ซึ่งมีรายงานข่าวเข้ามาว่าผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอู่ฮั่น  นายแพทย์ หลิวจื่อหมิง ได้เสียชีวิตแลงแล้ว ด้วยการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ซึ่งในขณะนี้นั้น มีจำนวนคนที่ตายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากถึง 1868 คนแล้ว

 รายงานข่าวการเสียชีวิตของผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอู่ฮั่น  นั้นมีการแจ้งเข้ามาว่าท่านเสียชีวิตแล้วตั้งแต่วันที่ 18 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020  เวลาประมาณ 10.30 น. ตามเวลาของประเทศจีน ซึ่งผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอู่ฮั่น เป็นบุคคลที่สำคัญยิ่งของประเทศจีนในขณะที่เพราะเป็นบุคคลที่ต้องต่อสู่กับการรักษาคนไข้ที่ติดเชื้อไวรสโควิด-19 มาตลอดแต่ต้องมาเสียชีวิตตอนที่กำลังทำงานในหน้าที่ของตนเอง

โดยในตอนแรกที่นายแพทย์คนดังกล่าวได้เสียชีวิตทางการได้ออกมาบอกว่าไม่เป็นความจริง แต่ต่อมาในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้นจึงได้ออกมายอมรับว่าผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอู่ฮั่น  ได้เสียชีวิตลงจริงจริงตามที่เป็นข่าว

ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว ทางการจีนเพิ่งออกมาประกาศถึงการเสียชีวิตของนายแพทย์คนหนึ่งที่เป็นคนค้นพบเชื้อไวรัสชนิดนี้และได้ออกมาเตือนประชาชนให้ระวังการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อซ้ำยังมีการจับนายแพทย์คนดังกล่าวไปกักขังเพื่อไม่ให้นายแพทย์คนนี้พูดเรื่องไวรัสให้ประชาชนตื่นกลัว จนเชื้อไวรัสได้มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก เขาจึงกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก และหลายฝ่ายเริ่งเชื่อในสิ่งที่นายแพทย์คนนี้พูดแล้วแต่ก็สายเกินไปซะแล้วเพราะเชื้อไวรัสโควิด -19 ได้แพร่กระจาย และระบาดไปทั่วทุกพื้นที่ของโลกแล้ว

ในตอนนี้เจ้าหน้าที่ของจีน ไม่ว่าจะเป็นหมอหรือแม้แต่พยาบาลซึ่งมีจำนวนหลายหมื่นคน ต่างก็ทุ่มเทที่จะช่วยเหลือคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เชื้อไวรัสนี้มีการแพร่ระบาดออกไปมากไปกว่านี้ ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลทียอมเสียสละชีวิตของตัวเองที่จะช่วยเหลือประชาชนคนอื่นอื่น

ซึ่งได้มีการรวบรวมจำนวนหมอและพยาบาลรวมถึงบุคคลที่มีส่วนร่วมในการรักษาในโรงพยาบาลพบว่าตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ตายเพราะเชื้อไวรัสนี้แล้วจำนวน 9 คนและยังมีอกี 1716 คนที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เข้าไปแล้ว  สำหรับข้อมูลของประเทศจีนมีการยืนยันจำนวนคนที่มีเชื้อไวรัสนี้ในร่างกายมากถึง 72,436 คน และจำนวนคนที่ตายเพราะติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล้ว 1,868 คนด้วยกันซึ่งข้อมูลนี้ยังไม่รวมคนของประเทศอื่นๆเช่น ฮ่องกง ไต้หวันและมาเก๊า

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุน  แทงบอลไม่มีขั้นต่ำ

ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5

ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่ยังคงมีต่อมาเรื่อยเรื่อย

ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5

ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ก่อนหน้านี้สามถึงสี่วันมีความรู้สึกว่าท้องฟ้าสดใสปลอดโปร่งไม่ขมุกขมัวเหมือนกับว่าอื่นๆที่ผ่านมารู้สึกดีใจและคิดว่าประเทศไทยน่าจะผลจากวิกฤตปัญหาฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ตันแล้ว

แต่มาในวันนี้เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้ากลับต้องพกฝนผิดอีกครั้งหนึ่งซึ่งกระจัดกระจายเต็มอยู่ท้องฟ้าเต็มไปหมดทำให้รู้ว่าปัญหาฝุ่นพิษพีเอ็ม 2.5 ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้จากรัฐบาลชุดนี้จริงอยู่ว่าฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นนี้ เกิดจากการกระทำของคนทุกคนทั้งประเทศไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งและไม่ใช่ของรัฐบาล

แต่การแก้ไขปัญหารัฐบาลควรจะเป็นผู้นำในการคิดค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีเพื่อให้ประชาชนภายในประเทศรู้สึกว่าปลอดภัยรู้สึกว่าได้สุดอากาศที่บริสุทธิ์เข้าไปไม่ต้องรู้สึกว่าเรากำลังเป็นอันตรายจากฝุ่นละอองทุกวันนี้เวลาที่ออกจากบ้านหากไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยแล้วจะมีความรู้สึกเหมือนเราสุดเอาขี้ฝุ่นเข้าไปในจมูกหายใจแล้วรู้สึกปวดแสบปวดร้อนไปหมดประชาชนทุกคนเฝ้ารอการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 นี้

จากรัฐบาลมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วจนถึงปีนี้ที่เป็นการเริ่มต้นของปีใหม่ก็ยังไม่ค้นพบการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องของรัฐบาลสักที ก่อนหน้านี้รัฐบาลที่ออกมาบอกให้เปลี่ยนกันเข้างานให้โรงเรียนหยุดเรียนให้ตำรวจออกมาจับคนที่ขับรถแล้วปล่อยควันดำออกกฏหมายมาจับคนที่เผาปลาเผาไร่แต่ถึงแม้จะมีกฎหมายพวกนี้ออกมา

ทุกวันนี้หากเราขับรถไปบนท้องถนนเราก็ยังเห็นรถที่ปล่อยควันดำออกมาเต็มไปหมดและไม่พบว่ามีทางเจ้าหน้าที่จะตามจับบุคคลเหล่านี้ได้รวมถึงทุกวันนี้ตามต่างจังหวัดก็ยังพบเห็นชาวไร่ชาวสวนต่างก็พากันเผาหญ้าเผาไร่อ้อยเข้าไร่นากันอยู่เต็มไปหมดโดยทุกคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเองแล้วถ้าหากทุกคนยังต้องใช้เหตุผลของตัวเองเพื่อมาทำผิดเช่นนี้แล้วค่าฝุ่นละอองพรุ่งนี้จะหายไปได้อย่างไรดังนั้นนี่จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและผู้รักษากฎหมายที่จะต้องออกกฎและรักษากฎอย่างเคร่งครัดเพื่อที่คนทุกคนในประเทศไทย

จะได้ร่วมมือร่วมใจกันในการแก้ไขปัญหาค่าฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ให้ค่าฝุ่นพิษนี้หมดไปจากประเทศไทยสักทีคุณภาพชีวิตของคนไทยจะได้ดีขึ้นไม่ต้องมาเป็นกังวลว่าเราจะมีชีวิตอยู่รอดได้อีกนานแค่ไหนเพราะต้องมานั่งสูตรฝุ่นพิษแบบนี้ทุกวันทุกวันซึ่งคนไทยทุกคนควรจะตระหนักถึงอันตรายจากการสูตรฝุ่นพิธีเอ็ม 2.5 นี้ได้แล้วเพราะตอนนี้ลูกหลานของเรากำลังตกอยู่ในอันตรายเวลาที่ออกนอกบ้านเพราะแม้แต่จะใส่หน้ากากอนามัยก็สามารถช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น     

ขอบคุณเรื่องราวดีๆเหล่านี้จาก  เว็บพนันบอลฝากขั้นต่ำ 100 

ข่าวสารของประเทศอินเดีย

 ข่าวเหยื่อที่ถูกข่มขืนโดนจุดไฟเผาขณะกำลังจะไปศาล 

          ข่าวสารของประเทศอินเดีย ยิ่งได้ติดตามข่าวสารของประเทศอินเดียก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าผู้ชายอินเดียมีจิตใจที่โหดร้ายจนเกินจะรับไหว เพราะก่อนหน้านี้ได้อ่านข่าวหญิงสาวชาวอินเดียถูกข่มขืนบ่อยมากและหลายคนต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์เลวร้ายนี้

ข่าวสารของประเทศอินเดีย

สำหรับข่าววันนี้ยิ่งสะท้านให้เห็นพฤติกรรมที่โหดอำมหิตเกินมนุษย์ของคนแก๊งนี้ 

          หญิงสาวรายนี้เคยถูกรุมข่มขืนจากคนร้ายที่เป็นชาย 2 คนโดยระหว่างที่ถูกข่มขืนหญิงสาวถูกอัดคลิปเอาไว้ด้วย หลังจากที่เธอรอดมาได้เธอได้แจ้งความกับตำรวจและสามารถจับตัวคนร้ายได้ แต่ตำรวจก็ปล่อยให้คนร้ายทั้งสองประกันตัวออกไป

แต่เธอเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจนักสู้ เธอพยายามต่อสู้เพื่อจะเอาผิดกับสองคนร้ายนี้ให้ได้ และเมื่อวันที่5 ธันวาคม ในขณะที่เธอกำลังเดินทางไปที่ศาล เธอก็ถูกคนร้ายที่ข่มขืนเธอและเพื่อนอีก 3 คนรวมเป็น 5 คนมาดักฉุดและทำร้ายด้วยการแทงเธอ และพวกคนร้ายก็จุดไฟเผาเธอ

แต่เธอมีจิตต่อที่แข็งแกร่งมาก เธอพยายามเดินมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้พาเธอส่งโรงพยาบาล โดยเธอต้องเดินเป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งกิโลเมตรกว่าจะมีคนช่วยเหลือ และก่อนที่เธอจะสลบไปเธอได้บอกชื่อคนที่ทำร้ายเธอทั้ง 5 คนให้ชาวบ้านรู้ได้

          ตามรายงานข่าวบอกว่าเธอถูกไฟเผาได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตอนนี้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อให้เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยจะสามารถช่วยเธอได้ เนื่องจากร่างกายของเธอถูกไฟคลอกเสียหายถึง 90 % จึงต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด 

ซึ่งทุกคนที่ทราบข่าวของเธอก็ออกมาภาวนาขอให้เธอปลอดภัย 

         จากที่ติดตามข่าวของอินเดียมาหลายครั้งปัญหาการทารุณกรรมทางเพศ เป็นปัญหาใหญ่ของอินเดียมาก เพราะผู้ที่ก่อเหตุไม่เคยเกรงกลัวต่อกฎหมายเลย ซ้ำล่าสุดยังมีรายงานข่าวออกมาด้วยว่า มีผู้กำกับหนังชื่อดังของประเทศอินเดียคนหนึ่งออกมาโพสต์ข้อความถึงรัฐบาล โดยเขาอยากให้มีโครงการข่มขืน

        โดยไม่ใช้ความรุนแรง โดยเขาแนะนำว่าให้หญิงสาวทุกคนพกถุงยางติดตัวไว้ และถ้ามีโจรจะมาข่มขืนก็ให้ยื่นถุงยางให้โจร เพื่อที่ว่าโจรจะได้ข่มขืนแล้วไม่ทำอันตราย โดยผู้กำกับชื่อดังให้เหตุผลว่าการเป็นที่ระบายความต้องการของผู้ชายไม่ใช่ความผิด ดีกว่าถูกฆ่าตาย 

          เป็นที่น่าตกใจมากกว่าเดี๋ยวนี้มีคนที่มีความคิดแบบนี้กันแล้วเหรอ แต่ก็ยังถือว่าคนดียังมีอยู่เพราะเมื่อโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป คนในสังคมออนไลน์และโซเชียวต่างก็พากันประณามความคิดอันแย่มากของเขา จนในที่สุดเขาก็ต้องปิดเฟสนี้หนีไป ซึ่งคิดว่าต่อไปงานที่มีผู้ชายคนนี้เป็นผู้กำกับคงจะไม่มีผู้หญิงคนไหนซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปดู

สนับสนุนเรื่องราวโดย  คาสิโนออนไลน์ฝากไม่มีขั้นต่ำ

Powered by WordPress & Theme by Anders Norén