สำหรับรองเท้ายี่ห้อ Converse นั้นเป็นแบรนด์ดังที่ผลิตมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1917 โดยคนที่เริ่มก่อตั้งบริษัทรองเท้า Converse คือ  Marquis  Mills Converse 

ตอนแรกที่มีการผลิตรองเท้า Converseออกมานั้นทางบริษัทเน้นการทำรองเท้าสำหรับการเล่นกีฬา  ซึ่งรองเท้า Converse ที่ผลิตออกมาตัวแรกคือ All Star ที่จะมีสัญลักษณ์รูปดาวสีน้ำเงินในวงกลมพร้อมมีตัวหนังสือเขียนว่า Converseไว้ที่รองเท้าด้วย ซึ่งในปี ค.ศ. 1936

นับได้ว่าเป็นปีทองของรองเท้ายี่ห้อนี้เลยก็ว่าได้เพราะเป็นรองเท้าที่นักกีฬาทั่วโลกรู้จักและสวมใส่เวลากีฬากันมาก จนถึงขนาดที่ว่าในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีนั้นนักบาสเกตบอลทุกคนต่างก็ใส่รองเท้า Converse รุ่น Chuck Taylor All Star

นอกจากรองเท้ายี่ห้อนี้จะนิยมในหมู่นักกีฬาแล้วยังนิยมใส่กันในหมู่ของทหารอีกด้วย โดยเฉพาะทหารในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2  สำหรับรองเท้า Converse ได้รับความสนใจมาอย่างยาวนานและถึงแม้ช่วงหลังๆจะมีรองเท้าแบรนด์อื่นเริ่มเปิดตัวมาเป็นคู่แข่ง แต่ก็ยังได้รับความนิยมอยู่โดยในข่วงนั้นส่วนแบ่งทางการตลอดของรองเท้า ยี่ห้อ Converse

ได้ส่วนแบ่งการตลาดมากสุดสูงถึง 80% เลยทีเดียว แต่มาในช่วงปี ค.ศ. 2001 บริษัทเกิดมีปัญหาจนเกือบที่จะล้มละลาย จนทางบริษัทแบรนด์ Nike ต้องเข้ามาช่วยเหลือด้วยการ เทคโอเว่อร์ และพัฒนารูปแบบรองเท้าให้มีความสวยงามมากขึ้น สีสันเยอะขึ้น

และออกแบบให้ผู้คนทั่วไปสวมใส่ได้ด้วยนอกจากนักกีฬาและทหาร หญิงและชายสามารถสวมใส่แล้วดูดีหมดทำให้ Converse กลับมาเป็นที่สนใจของทุกคนอีกครั้ง

และหากใครที่ไม่ใช่สาวกของรองเท้า Converseตัวจริงจะคิดว่ารองเท้ายี่ห้อนี้ไม่ค่อยมีอะไรแต่ต่างกันแต่มักจะชอบมีชื่อเรียกที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เราจะมาแนะนำแต่ละรุ่นว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

1.Chuck Taylor All Atar สำหรับรุ่นนี้แม้จะมีอายุมากกว่า 80 ปีมาแล้วแต่ก็ยังเป็นรุ่นคลาสสิกที่ผู้คนนิยมสวมใส่กันไม่เสื่อมคลาย เพราะรองเท้ารุ่นนี้จะสวมใส่สบายและทนทาน รวมถึงมีสีสันเรียบง่าย เหมาะกับการใส่กับชุดอะไรก็ได้ ปัจจุบันมีทั้งแบบหุ้มข้อและแบบข้อสั้น

2.Conns  สำหรับรุ่นนี้จะเน้นเรื่องของน้ำหนักเบาและยึดเกาะพื้นได้ดี เป็นที่นิยมกันมากในช่วงยุค 90

3.Jack Purcell  สำหรับรุ่นนี้จะเน้นของเรื่องการรับน้ำหนักและการป้องกันการกระแทก เพราะรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อให้นักกีฬาแบดมินตันโดยเฉพาะ

4.Chuck Taylor All Atar II   สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นปรับปรุงมาจากรุ่นแรก รุ่นนี้จะเพิ่มเรื่องของน้ำหนักที่เบาขึ้น ใส่แล้วไม่เมื่อยเท้า เน้นความสบายของเท้าแต่ยังความเป็นเอกลักษณ์เดิมเอาไว้

 

ขอขอบคุณ  สูตร sexy baccarat