นักศึกษาแพทย์กำลังเตรียมชำระศพในวิชาเรียนแต่ต้องช็อคจนน้ำตาไหล เมื่อพบว่าอาจารย์ใหญ่คือเพื่อนสนิทที่คบกันมานานถึง 7 ปี 

        ศพที่ต้องผ่าเรียนคือเพื่อนสนิท  เมื่อวันที่ 2 เดือน สิงหาคม ปี พ.ศ. 2564   ได้ มีเว็บไซต์ในของประเทศไนจีเรียได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของนักศึกษาแพทย์ชายคนหนึ่งซึ่งเขาได้เจอกับประสบการณ์ที่สุดช็อคเมื่อในขณะที่เขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยคาลาบาร์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับการแพทย์ของประเทศไนจีเรียอยู่มาวันหนึ่งเขากับเพื่อนๆนักศึกษาแพทย์จำเป็นที่จะต้องมีการผ่าศพอาจารย์ใหญ่  

        ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนวิชาแพทย์อย่างไรก็ตามนักศึกษาชายคนดังกล่าวนั้นพบว่าในจำนวนศพ 3 ศพที่ถูกส่งมาเป็นอาจารย์ใหญ่ที่พวกเขาจะต้องเตรียมผ่านั้นคือหนึ่งในเพื่อนสนิทของเขาซึ่งเขาและเพื่อนสนิทของเขานั้นคบกันมานานกว่า 7 ปีแล้วอย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาเห็นว่าเพื่อนของเขานั้นเสียชีวิตเขาก็กรีดร้องแล้ววิ่งออกจากห้องเรียนทันที

       ซึ่งเพื่อนๆคณะแพทย์ด้วยการต่างก็ตกใจและตามออกมาดูจึงพบว่าเขากำลังนั่งร้องไห้อยู่อย่างไรก็ตามเขาได้มีการติดต่อไปยังครอบครัวของเพื่อนสนิทที่เสียชีวิต

ศพที่ต้องผ่าเรียนคือเพื่อนสนิท ซึ่งพบว่าทั้งครอบครัวของเพื่อนของเขานั้นกำลังออกตามหาอยู่และพยายามที่จะติดต่อนักศึกษาแพทย์คนดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้อย่างไรก็ตามทั้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้มีการแจ้งทางสถานีตำรวจเกี่ยวกับคนหายเอาไว้

      จากการเปิดเผยของนักศึกษาชายคนดังกล่าวระบุว่าศพของเพื่อนของเขานั้นเสียชื่อจากการถูกยิงและจากการตรวจสอบพบว่าคนที่ยิงเพื่อนของเขานั้นก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเองโดยเพื่อนของเขานั้นไปเที่ยวตอนกลางคืนและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและถูกยิงจนเสียชีวิตหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำร่างของผู้เสียชีวิตมาส่งที่โรงเรียนแพทย์

        อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้นักศึกษาแพทย์หลายคนออกมาแสดงความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพวกเขาต่างวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โหดร้ายจนเกินไปซึ่งพวกเขานั้นคิดว่าศพทุกศพที่ถูกส่งมาที่โรงเรียนแพทย์นั้น

น่าจะเป็นศพของเหล่าบรรดาอาชญากรที่มีการกระทำความผิดจริงๆและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญซึ่งพวกเขาไม่คิดว่าคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ใช่อาชญากรก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิตและถูกส่งมาที่โรงเรียนแพทย์เช่นเดียวกัน

       ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตนั้นไม่ได้รู้เลยว่าลูกหลานของตนเองเสียชีวิตจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องเกี่ยวกับเรื่องของการเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายของประเทศไนจีเรียเกี่ยวกับเรื่องของความรุนแรงของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกันนี้ยังควรที่จะต้องมีการเปลี่ยนกฎเกี่ยว

กับเรื่องของการบริจาคศพมาที่โรงเรียนแพทย์ว่าควรจะได้รับการยินยอมจากทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้วเท่านั้นและควรจะมีการบันทึกประวัติเอาไว้อย่างชัดเจนไม่ควรที่จะส่งศพมาที่โรงเรียนแพทย์โดยที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตไม่ยินยอม 

 

สนับสนุนโดย.  ufabet ฝากถอน ไม่มีขั้นต่ำ ออโต้